วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ราชินีแห่งผลไม้ไทย


ในบรรดาผลไม้ไทยต่างๆที่เราได้ประสบพบเห็น และได้ลองลิ้มชิมรสพบว่า มังคุด เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีแห่งผลไม้" เนื่องด้วยรูปร่าง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถ้ามองจากลักษณะภายนอก รูปร่างกลมเกลี้ยงของผลที่มีกลีบเลี้ยงติดอยู่ด้านบนของผลคล้ายมงกุฎของ พระราชินี ประกอบกับเนื้อด้านในที่มีสีขาวนวล สะอาด รสชาติหวานอร่อย จึงทำให้มังคุด เป็นผลไม้ที่ได้รับการยอมรับจากใครๆหลายคนได้ไม่ยาก

นอกจากความที่ได้เป็น ราชินีแห่งผลไม้แล้ว มังคุดยังให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆมากมายแก่ร่างกายอีกด้วย ถ้าเป็นประโยชน์ด้านสารอาหารพบว่า ในเนื้อสีขาวของมังคุดนั้น มีสารอาหารจำพวกวิตามินซีสูง มีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร หากเรารับประทานอาหารแล้วไม่ย่อย ท้องผูกเป็นประจำ แนะนำให้รับประทานมังคุด เมื่อรับประทานมังคุดเข้าไปแล้ว เส้นใยอาหารในตัวมังคุดนี้ก็จะไปเกาะเป็นก้อน ดึงเอาสารก่อมะเร็งในไขมันน้ำตาลที่อยู่ระหว่างมื้อออกไปทางอุจจาระ ส่วนถ้าเป็นประโยชน์ในทางธรรมชาติบำบัด พญ.ลลิตา ธีระสิริ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญธรรมชาติบำบัด ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี กล่าวว่า มังคุดมีรสชาติอร่อยแล้วยังมีสรรพคุณทางยา โดยเนื้อสีขาว ใช้เป็นยาแก้ร้อนใน บำรุงกำลัง ส่วนยางที่มีสีเหลืองๆ ที่ปนกับเนื้อจะช่วย แก้ท้องเสีย ส่วนเปลือกมังคุด เราสามารถนำไปตากแห้งแล้วทำการฝนกับน้ำปูนใส จะสามารถใช้ในการรักษาแผลที่มีหนอง หรือแผลพุพอง หรืออีกวิธีหนึ่ง โดยการนำเปลือกมังคุดมาฝนกับน้ำใช้กินแก้ท้องเสียได้อีกด้วย นอกจากนี้เปลือกมังคุด ยังให้คุณค่าเป็นสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนัง สิวต่างๆ บรรเทาอาการผดผื่น แก้คัน วิธีนำเปลือกมังคุดไปใช้รักษาโรคก็ง่ายๆดังนี้ โดยการนำเปลือกมังคุดแห้งมาต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดทาบริเวณที่มีอาการ และด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้เอง เปลือกมังคุดจึงถูกดึงมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สบู่ที่ช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง สบู่รักษาสิวฝ้า ดังที่ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา ชมนาวัง ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำวิจัยเรื่อง "โครงการสมุนไพรเพื่อใช้รักษาสิว" โดยศึกษาจากสมุนไพรจำนวน 19 ชนิด 1 ในบรรดาสมุนไพร 19 ชนิด มีมังคุดรวมอยู่ด้วย จากการทดสอบและการทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่า สารในเปลือกมังคุด ที่มีรสฝาด จะมีสารที่เรียกว่า แทนนิน(tannin)ซึ่งมีฤทธิ์สมานแผลช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแซนโทน(Xanthon)ช่วยยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังได้ และสารที่มีชื่อเรียกเฉพาะชื่อเดียวกับมังคุดว่า แมงโกสติน (Mangostin) มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ และต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง สารชนิดนี้มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิวได้และยังออกฤทธิ์ต้านเชื้อสิว อักเสบได้ดี นอกจากนี้ยังพบว่า สารสกัดมังคุดช่วยลดรอยแผลเป็นของสิวอักเสบสูงถึงร้อยละ77.8 ผู้ที่สนใจในเรื่องการรักษาสิว สามารถทำครีมแต้มสิวจากเปลือกมังคุดได้ง่ายๆ มีสูตรส่วนผสมดังนี้ เปลือกมังคุดสด 10 ผล, ดินสอพอง 1 ช้อนชาวิธีทำ ขั้นแรก ล้างเปลือกมังคุดให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใส่ในเครื่องคั้นน้ำผักผลไม้ จะได้น้ำเปลือกมังคุดเข้มข้น จากนั้นผสมดินสอพองในน้ำเปลือกมังคุดกะให้เหลวเล็กน้อยใช้ครีมเปลือกมังคุดหลังล้างหน้าทุกครั้ง แต้มหัวสิวด้วยโลชั่นเปลือกมังคุด จะทำให้สิวยุบลง นอกจากนี้เคล็ดลับในเลือกที่เราสามารถไปเลือกซื้อมังคุด ควรเลือกมังคุดที่เปลือกนิ่มเล็กน้อย จะได้น้ำมาก หากมีเปลือกมังคุดปริมาณมาก สามารถนำไปตากแห้งแล้วบดเป็นผงเวลาใช้ให้ต้มกับน้ำเล็กน้อย กรองเอากากออก จะได้น้ำเปลือกมังคุดเข้มข้น และนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้มากมาย

เมื่อได้อ่านสรรพคุณในตัวผลไม้ที่ชื่อมังคุดแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทั้งเปลือกนอกและเนื้อด้านใน เปลือกช่วยเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วงเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการสมานแผล รักษาโรคผิวหนัง เช่น กลากเกลื้อน บรรเทาอาการผดผื่น ช่วยให้แผลหายเร็ว ส่วนเนื้อช่วยในเรื่องการขับถ่าย และยังได้สารอาหาร วิตามินและเกลือแร่อื่นๆ อีกหลายชนิด จะเห็นได้ว่า ผลไม้ชนิดนี้มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ครบสูตรจริงๆ เราควรหันมาบำรุงและใส่ใจสุขภาพด้วยผลไม้ไทยกันดีกว่าเพื่อร่างกายของเราจะได้แข็งแรงสมบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น